[TE] Nagahara Masato’s Story I : END

( มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Side Story I : Goal )

 

END

 

 

“What do you do when a chapter ends?‬

‪Do you close the book and never read it again?‬

‪Where do you go when your story’s done?‬

‪You can be who you were or who you’ll become ”

Just Hold On – Steve Aoki & Louis Tomlinson

 

หากเปรียบเรื่องราวในชีวิตของผมเป็นหนังสือนิยายเล่มนึง

ช่วงเวลานี้ก็คงเป็นบทกลาง ๆ เรื่องบทหนึ่งที่ค่อนข้างน่าเบื่อสำหรับผู้อ่าน

ไม่มีการผจญภัยน่าตื่นเต้น ไม่มีประสบการณ์ลุ้นระทึก ไม่มีเรื่องที่ทำให้คนอ่านได้ขำจนหงายหลัง มีเพียงแค่ชีวิตประจำวันธรรมดาๆ

ตื่นเช้ามา อาบน้ำ กินข้าว ไปสอนหนังสือ กลับบ้าน ทำงาน แล้วก็เข้านอน

มันเป็น ‘การหยุดอยู่กับที่เพื่อให้ได้เห็นภาพต่างๆชัดขึ้น’ เป็นช่วงเวลาเอื่อยๆที่อาจดูน่าเบื่อแต่ก็ทำให้ตัวเอกได้มีเวลาทบทวนเรื่องราวของตัวเอง

เพราะฉะนั้นผมก็หวังว่าจะได้ใช้ช่วงเวลานี้พักผ่อน.. ค้นหาตัวเอง.. ชีวิตเป็นไปอย่างสบายๆ..

ค่อยๆคิดเรื่องชีวิตของตัวเองไปอย่างไม่รีบร้อน..

    …ล่ะมั้งนะ

 


 

ฟังเพลง

 

 

          “ขอโทษนะคะคุณชอบดื่มน้ำอะไรหรอคะ?”

เส้นผม..ดวงตา..สีหน้า..รอยยิ้ม ความรู้สึกบางอย่างมันผุดขึ้นมาในตอนที่ผมได้เจอกับ ‘เธอ’ เป็นครั้งแรก

ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันคืออะไรกันแน่.. ความเดจาวู? ความคุ้นชิน? ผมไม่มั่นใจขนาดนั้นก็เลยตัดสินใจปล่อยมันไป

เธอเป็นเด็กสาวตลกๆที่เข้ามาชวนคุยและขอเมล รู้สึกประหลาดแต่เพราะความรู้สึกหลายๆอย่างที่ว่ามานั้นผมก็เลยยังอยากลองคุยด้วย รู้สึกตัวอีกทีก็ให้เมลล์ไปเรียบร้อยแถมยังได้ลองน้ำแอปเปิ้ลที่เธอเสนอมาอีก

ดูเหมือนว่าช่วงชีวิตปีที่ 2 หลังจากที่ได้ลองหยุดพักนี้จะไม่สงบเหมือนที่ตัวเองคาดไว้ในตอนแรกแล้ว

 

 

          “อยู่กับคุณคงไม่อันตรายหรอกค่ะ”

หลังจากที่ผมบ่นๆเธอเรื่องการระมัดระวังตัว เธอก็ตอบผมมาแบบนี้

ตอนนั้นผมอยากถอนหายใจ เธอจะรู้ได้ยังไงว่าผมอันตรายจริงหรือไม่จริงกัน เธอเพิ่งรู้จักผม ไม่มีอะไรมารับประกันเลย เพราะเธอใสซื่อ? มองโลกในแง่ดี? ไม่ จากการดูจากสายตาเธอดูไม่ใช่คนที่ไม่ทันโลกขนาดนั้น

 

 

          “จริงหรอคะ? ถ้าตั้งใจเรียนแล้วจะได้ไปเดทอีกหรอคะ จริงนะ?”

หลังจากที่เธอรู้ ‘สถานะ’ ของผมเธอก็ดูตกใจไปช่วงนึงเหมือนกัน ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเข้าหาผมอยู่ดี เธอเข้าหาผมตามประสาเด็กที่ดูคึกคะนองทั่วไป มาแซว มาหยอด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จริงจังอะไร

 

 

          “ ‘อาจารย์’ น่ะชอบไล่หนูทุกทีเลยนะคะ”

ผมไม่แน่ใจว่าผมไล่เธอไปขนาดไหน เพราะอันที่จริงผมว่าผมทำในสิ่งที่ตรงข้ามมากกว่าด้วยซ้ำ

มันเหมือนจะมีอะไรดึงดูดความสนใจผมไว้ ..ซึ่งผมว่ามันคงจะเป็นสายตา ไม่ใช่ว่าดวงตาของเธอดูเศร้าหรืออะไร แต่มันถ่ายทอดความรู้สึกแปลกๆในเวลาที่เธอพูด ผมรู้สึกว่าเธอมีอะไรในใจที่ไม่แสดงออกมาตรงๆ

 

 

          “หรือว่าจริงๆแล้วที่บอกว่าน่าเป็นห่วงจะหมายถึง..อาจารย์ต้องชอบหนูแน่ๆเลยใช่มั้ยคะ?”

ตลกดีที่โยงได้ตลอดเวลาเลย แต่ถามว่าเป็นห่วงไหมเธอก็น่าเป็นห่วงจริงๆนั่นแหละ

อะไรหลายๆอย่างในตัวเธอทำให้รู้สึกว่าเธอควรถูกดูแลบ้าง พอเห็นคำว่า ‘ลูกศิษย์ที่น่าเป็นห่วง’ ผมก็นึกถึงเธอขึ้นมาเป็นคนแรกและทำให้ผมตัดสินใจขอยืมตัวเธอมาในกีฬาสีโรงเรียน

 

 

          “อืม.. ฉันน่ะยังไม่มีจุดหมายเลยล่ะ”

เธอตอบผมตอนที่ผมถามเธอเกี่ยวกับเรื่องเส้นทางในอนาคต คำพูด รอยยิ้ม และสายตาของเธอดูว่างเปล่าอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่แค่คำพูดนี้เธอยังพูดถึงเส้นทางที่เด็กนักเรียนทั่วไปไม่น่าจะเลือกกัน มันเหมือนกับว่าเธอไม่เห็นความสำคัญของตัวเองยังไงก็ไม่รู้..

เพราะเหตุนี้..ผมเลยตัดสินใจที่จะก้าวเข้าไป..

 

 

 

ดูเหมือนผมจะไม่ได้หยุดอยู่กับที่อย่างที่คิดในตอนแรกซะแล้ว

.

 

 

 

“เธอ… มีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่า?”

“ผมก็แค่ .. รู้สึกว่าเธอน่าจะมีอะไรอยู่ในใจในขณะที่เธอกำลังยิ้มน่ะ หลังจากได้ฟังเธอพูด”

ผมถามออกมา ความคาใจทำให้ผมเลือกที่จะถามไปแบบนี้ ผมรู้สึกว่าเธอมีปัญหาอะไรบางอย่าง เธอมีปัญหาจริงๆ

 

 

 

          “ฉันกำลังคิดว่า… คุณจะมองฉันเป็นแบบไหนกันนะ ตอนนี้”

ในฐานะ ‘อาจารย์’ คนนึง ผมรู้สึกว่าตัวเธอเป็นคนที่ผมอยากจะช่วยรับฟังปัญหา

ในฐานะ ‘อาจารย์’ คนนึง ผมอยากจะช่วยแก้ไขมัน อยากให้เธอสามารถยิ้มได้แบบไม่มีอะไรคาใจ

สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ตอบอะไรชัดเจน แต่อะไรบางอย่างในความรู้สึกผมมันกลับดูชัดเจนมากขึ้นแทน

เป็นอะไรที่ตัวผมยังไม่พร้อมจะก้าวข้ามมันไปนัก

 

แต่มันก็เหมือนจะเปลี่ยนไปภายในเวลาแค่ชั่วพริบตาเดียว

 

 

 

 

 

“จริงๆเธอน่ะ คล้ายคนที่ผมเคยรู้จักมากๆเลยนะ”

จู่ๆผมก็รู้ตัวขึ้นมาว่านี่มันอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเริ่มพูดคุยกับเธอในตอนแรก

เธอมีอะไรบางอย่างคล้ายกับ ‘เธอคนนั้น’ เส้นผม..ดวงตา..สีหน้า..รอยยิ้ม หลายๆอย่างมันทำให้ภาพของ ‘เธอคนนั้น’ ในหัวซ้อนทับกับเธอที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมา และสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ผมได้พูดคุยกับเธอ

แต่ตอนนี้.. ภาพของเธอคนนั้นก็เริ่มหายไป กลายเป็นตัว ‘เธอ’ จริงๆที่หยุดสายตาผมเอาไว้ จากตอนแรกที่ผมสนใจเธอเพราะความรู้สึกที่คล้ายคลึงกับเธอคนนั้น กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่อยู่ในตัวเธอและส่งมาถึงผมทำให้ผมอยากจะคอยประคองเธอไว้

 

 

“เธอคงเบื่อกับคำว่า ‘เดินทาง’ แล้วสินะ?”

ผมเป็นคนชอบเดินทาง กลับกัน เธอเป็นคนที่เริ่มหนื่อยกับการเดินทาง

บางทีผมก็รู้สึกว่าตัวผมกับเธอมีอะไรคล้ายกัน พวกเราน่าจะลงรอยกัน และช่วยเหลือกันได้ แต่บางทีผมก็รู้สึกว่าเราสองคนต่างกันเหลือเกิน ยากนักที่พวกเราจะบรรจบกันได้

 

          “คุณใจดีจังค่ะ ความใจดีนี้อยู่ในฐานะของอาจารย์รึเปล่าคะ?”

“ก็ใช่ .. แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด”

 

 

บางทีตอนนี้อาจจะเป็นตอนที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป

 

 

          “ฉันขอถามคุณอีก1คำถามค่ะ ตอนนี้คุณคิดกับฉันยังไง?”

“ผมอยากอยู่กับเธอ … ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘ความสัมพันธ์ที่มันไม่ควร’ ผมก็ยังอยาก นี่พอจะเป็นคำตอบได้รึเปล่า?”

          “ถ้าอย่างงั้น… เรามาลองดูกันมั้ยคะ? ‘ความสัมพันธ์ที่ไม่ควร’ น่ะ?”

 

 

คำพูดนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เราสองคนก้าวข้ามไป

 

 

 

e1

            “งั้น3เดือน… เรามาทดลองคบกันก่อน3เดือนเถอะค่ะ”

 

e2

 

“ตกลง .. 3 เดือน”

3 เดือน

ผมก้าวเข้าไปหาเธอ ระยะห่างระหว่างเราสั้นลง เส้นทางของพวกเรามาเกี่ยวคาบทับกัน

 

3 เดือน

ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะจบยังไง

ความรู้สึกผมในตอนนี้มันยังเป็นอะไรอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้สักเท่าไหร่ แต่ผมก็แค่คิดว่าผมจะเสียใจมากกว่านี้ถ้าไม่ได้เลือกทางเดินนี้

 

3 เดือน

แปลกดีเหมือนกันที่ตอนแรกเธอเข้าหาผม แต่ตอนนี้ผมกลับเป็นฝ่ายเข้าหาเธอ

สุดท้ายผมก็ไม่ได้หยุดอยู่กับที่อย่างที่ผมคิด ผมเลือกก้าวเดินมายังเส้นทางที่ผมไม่เคยคิดว่าผมจะเดินมา ผมไม่รู้ว่าพวกเราสองคนจะเป็นยังไงกันในอีก 3 เดือนต่อไป ผมไม่รู้ว่าสุดท้ายหน้านิยายบทนี้ของชีวิตผมจะเป็นบทที่สำคัญหรือบทที่ถูกเก็บไว้เป็นความลับตลอดไป

 

 

 

e3

 

“ถ้าเธออยากร้องไห้ ผมจะร้องเป็นเพื่อนเธอเองนะ”

..นี่คงเป็นคำที่อธิบายความรู้สึกของผมได้ชัดเจนที่สุดแล้ว

3 เดือนนี้ผมคงไม่ได้หยุดอยู่กับที่อย่างที่คาดคิดไว้ แต่ผมว่าการตัดสินใจครั้งนี้มันก็คงจะทำให้ผมได้เห็นอะไรชัดเจนขึ้นมาได้แน่นอน

 

 

TBC

 

 

  • เรื่องของ “เธอ” ที่เคยเล่าถึงในไซด์สตอรี่อันก่อนค่ะ!
  • ใช่ค่ะ มาซาโตะกำลังคบกับเธออยู่ และเธอเป็นนักเรียน555 ตรงนี้อยากจะให้แค่ผปครู้เท่านั้นนะคะ ตัวคาร์ยังปกปิดอยู่ และไม่เปิดเผย ไม่แสดงท่าทีอะไรแน่นอนค่ะ 🙂
  • จริงๆไทม์ไลน์อันนี้ก็ผ่านมาสักพักแล้วล่ะค่ะ(…) แต่นี่เพิ่งมีเวลาเอามาสรุป แต่พอสรุปก็ยังดูมึนๆ (…) รู้สึกเป็นคนเรียบเรียงภาษาดีๆไม่ได้เลย555555 แต่ก็อยากจะถ่ายทอดความรู้สึกตรงนี้ออกมาให้ได้ ก็มาเป็นแบบนี้ล่ะค่ะ! #ก๊อปบทโรลมาใช้เลย(..) ยังไงต้องขอบคุณผปคเธอมากเลยนะคะที่มาโรลกัน!
  • สถานะตอนนี้.. เรียกว่าเรา (มาซาโตะ) กำลังจีบเธอนั่นแหละค่ะ! อนาคตยังไม่มีอะไรแน่นอนเท่าไหร่ ตัวเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าอนาคตจะเป็นยังไง 55555 ถ้าเป็นไปได้เราก็จะมาอัพเดทสตอรี/ฟีลลิ่งเรื่อยๆค่ะ
  • เพลงที่เอามาใช้ประกอบในครั้งนี้คือ Just Hold On ของ Steve Aoki กับ Louis Tomlinson ค่ะ เราชอบเนื้อเพลงท่อนที่แปะไปมากๆ แต่เรารู้สึกว่าตัวเพลงจริงๆฟีลไม่เข้ากับฟีลของสตอรี่อันนี้สักเท่าไหร่ เลยเอาเวอชั่น acoustic มาใช้ประกอบแทนค่ะ อีกเพลงที่ฟังก็คือ For a better day https://www.youtube.com/watch?v=crtc096afKI เวอร์ชั่นนี้ค่ะ
  • ยังไงก็ขอขอบคุณที่อุตส่าห์เข้ามาอ่านกันนะคะ !

[TE] การบ้านวิชาภาษาอังกฤษ

tex-banner

สวัสดีนักเรียนทุกคน

วันนี้พวกเราได้มาเจอกันพวกคุณก็น่าจะเดาได้นะว่าพวกเรามีเรื่องอะไรมาพูด

ใช่แล้ว.. การบ้าน นั่นเอง!!

/ซาวด์มา–

แต่ก่อนอื่นที่จะอธิบายว่าการบ้านต้องทำยังไง เรามาเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษกันหน่อยดีกว่า!

samar

masato

 

murazaki

 

yuichi

jiyo

 

เอาล่ะ ทีนี้พวกคุณก็ได้เรียนรู้คำศัพท์ทั้ง 5 หมวด 50 คำแล้ว จำให้แม่นๆล่ะ เพราะคำศัพท์พวกนี้จะได้นำไปใช้ในการบ้านแน่นอน

และการบ้านก็คือ…

เกมส์ใบ้คำ!! (อำอำอำอำาาา)

 

 

วิธีการทำการบ้าน

  1. ให้นักเรียนจับคู่ 2-3 คน จะคละชั้นหรือคละโรงเรียนก็ได้ตามใจเลย (ถ้าหาคู่ไม่ได้ก็สามารถใช้วิธีสมมติว่าจับคู่กับ NPC ได้ค่ะ)
  2. แต่ละคู่ให้มารับบัตรคำศัพท์ทั้ง 5 หมวดจากอาจารย์ประจำวิชา
  3. หลังจากรับเรียบร้อยแล้วก็ตั้งสมาธิสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วมานั่งหันหน้าเข้าหากันexample1
  4. ฝ่ายที่ถือบัตรคำอยู่ก็สุ่มบัตร (คนสุ่มบัตร) ออกมา 1 ใบ โชว์คำศัพท์ให้เพื่อนดูexample2
  5. อีกฝ่ายที่เห็นคำศัพท์ (คนใบ้) ก็ให้ใบ้เป็นภาษาญี่ปุ่น(ภาษาไทยของผปค) 1 ประโยค แต่ห้ามพูดคำๆนั้นตรงๆ และห้ามแสดงท่าทางประกอบ                   example3
  6. ถ้าฝ่ายที่ถือบัตรอยู่สามารถนึกคำศัพท์ได้ก็สามารถตอบไปได้ในทันที แต่หากฝ่ายที่ถือบัตรตอบไม่ได้ ฝ่ายที่ใบ้ก็สามารถใบ้เพิ่มเป็นภาษาญี่ปุ่นได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ประโยคเท่านั้น (รวมเป็นสามารถใบ้เป็นภาษาญี่ปุ่นได้ทั้งหมด 3 ประโยค)example4
  7. หากครบ 3 ครั้งแล้วยังไม่สามารถตอบได้ ก็มีตัวเลือก 2 ตัวเลือกคือใบ้ต่อได้เรื่อยๆเป็นภาษาอังกฤษไม่จำกัด จำนวนครั้ง หรือผ่านไปคำอื่นแทนexample5
  8. ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้คำที่ตอบได้ example6
  9. หลังจากนั้นก็สลับฝั่งกันให้ฝ่ายที่เคยใบ้สุ่มแผ่นป้ายและเป็นคนตอบคำศัพท์แทนบ้าง (แต่สำหรับคนที่สมมติว่าตัวเองคู่กับ NPC เขียนเอนทรี่เล่าถึงแค่ตอนตัวเองเป็นคนใบ้ก็พอค่ะ)example7
  10. เสร็จแล้วให้ทำบันทึกสถานการณ์การใบ้ว่าราบรื่นมั้ย และสรุปว่าคำที่ตอบถูกคืออะไร ใบ้ว่าอะไรบ้างถึงตอบถูกexample8 

    เท่านี้การบ้านก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว !! ไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะ!!


    หมายเหตุ: ถ้าหากจับกลุ่มเป็นสามคน ก็ให้ใบ้เป็น Aใบ้ให้B, Bใบ้ให้C, Cใบ้ให้A ค่ะ

    สำหรับการอัพเอนทรี่


    สายวาด: เขียนคอมิค หรือ วาดภาพประกอบคำอธิบายถึงการทำการบ้านว่าราบรื่นมั้ย มีอุปสรรค(?)อะไรมั้ย และสรุปมาว่าตลคแต่ละตัวใบ้คำที่ถูกว่าอะไรบ้าง


    สายฟิค: แต่งฟิคสั้นเล่าถึงการทำการบ้านว่าราบรื่นมั้ย มีอุปสรรค(?)อะไรมั้ย และสรุปมาคว่าตลคแต่ละตัวใบ้คำที่ถูกว่าอะไรบ้าง

    โดยมีชินดันที่ใช้สุ่ม 2 อันได้แก่


    ชินดันสุ่มผลการใบ้ โดยชื่อที่ใช้กรอกให้เป็น “A ใบ้ให้ B” “B ใบ้ให้ A”


    ชินดันสุ่มคำศัพท์ ให้กรอกชื่อตัวละครที่เป็นคนสุ่มบัตรคำศัพท์(ฝ่ายที่โดนใบ้)ตามด้วยจำนวนครั้งที่สุ่ม ex. “A ครั้งที่ 1”

    (ในกรณีที่สุ่มครั้งที่ 2 แล้วได้คำซ้ำเดิม ให้วงเล็บว่า (ซ้ำ) ต่อท้ายไปด้านหลัง)


    สามารถดูตัวอย่างการส่งการบ้านได้ในนี้


    ตัวอย่างการบ้านสายฟิค จิ้ม

    ตัวอย่างการบ้านสายวาด จิ้ม

    เดดไลน์สำหรับการบ้านคือ วันอา. ที่ 4 ก.พ. 2018


    แท็กสำหรับการบ้านคือ #TEHomework09

    หากมีข้อสงสัยอะไรก็สอบถามได้ที่คอมเม้นในเอนทรี่นี้ หรือเมนชั่นมาถามกับ @NMasato_TE ได้เลย 🙂

    เพราะฉะนั้นก็ตามนี้แหละ มาทำการบ้านภาษาอังกฤษกันเถอะ!!