ฉันเป็นคนขี้รำคาญ
แม้ว่าฉันจะพยายามเก็บสีหน้ามากแค่ไหน แต่ฉันก็รู้ตัวแหละว่าฉันคงเผลอขมวดคิ้วเบะปากออกมาบ่อยๆแน่ๆ
มีหลายเรื่องที่ฉันรำคาญ
แต่ถ้าใช้คำว่ารำคาญในการอธิบายมันก็ดูไม่เท่เอาซะเลย
เพราะฉะนั้น ถ้าเจอคำว่า ’เกลียด’ ข้างล่างก็ช่วยแปลเป็นคำว่า ‘รำคาญ’ หน่อยนะ
ฉันเกลียดฤดูร้อน โดยเฉพาะเวลามีความชื้นเยอะๆ
ยิ่งเวลาเหงื่อออกมาปนกับครีมกันแดดนี่ทำเอาฉันแทบกรี๊ด
ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าฤดูนี้จะน่ารักขนาดไหนก็เถอะ
ฉันก็ยังคงเกลียดฤดูนี้อยู่ดี
ฉันเกลียดกระเทียม ทั้งรสชาติและสัมผัสของมัน
ตอนประถมฉันเคยลงแข่งวิ่งวิบากในกีฬาสีและดันโชคร้ายเจอขนมปังไส้กระเทียม
และมันก็ทำเอาฉันไม่กล้าพูดคุยกับใครไปอีก 2 วัน
แน่ล่ะ ใครที่ไหนชอบให้ตัวเองปากเหม็นกัน
ฉันเกลียดไขมัน โดยเฉพาะไขมันในร่างกายตัวเอง
ตอนเด็กๆฉันรักการกินเนื้อติดมันแท้ๆ แต่พอโตขึ้นกลับเกลียดมันซะงั้น
อาจจะเพราะชั้นไขมันที่เริ่มมีมากขึ้นที่หน้าท้องก็ได้ล่ะมั้ง
ฉันเกลียดสิว โดยเฉพาะสิวที่ขึ้นที่แปลกๆอย่างพวกจมูก หน้าผาก คาง
โชคดีอยู่อย่างที่ฉันเป็นคนหน้าไม่ค่อยมัน ทำให้สิวไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่
แต่พอขึ้นแต่ละทีก็นานมากกกกกกกกกว่าจะจาง
ไหนจะต้องเสียค่าคอนซีลเลอร์อีก มันแพงนะรู้ไหม
ฉันเกลียดผีเสื้อ… เกลียดจริงๆ
ตอนอนุบาลฉันเคยไปวิ่งเล่นกับเพื่อนในสนามเด็กเล่น รู้ตัวอีกทีฉันก็ถูกอะไรสักอย่างชน
แล้วฉันก็พบว่า ในปากฉันมีไอ้เจ้าผีเสื้ออยู่..
ไม่รู้มันคิดอะไรถึงได้วกยูเทิร์นมาเข้าปากฉัน แต่แน่นอนว่าหลังจากนั้นฉันไม่สามารถอยู่ใกล้สิ่งมีชีวิตนี้ได้เลย
คนเยอะๆและสถานการณ์สับสนเป็นอีกอย่างที่ฉันเกลียดที่สุด (แต่นั่นไม่รวมคนเยอะๆในคอนเสิร์ตหรอกนะ อันนั้นมันก็สนุกดี)
ฉันเกลียดมากเวลาที่ต้องอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย
ทั้งพูดข้ามหัว เดินชนกันไปมา
ไม่ใช่ว่าฉันเกลียดการพูดคุยกับผู้คนนะ แต่เวลาเจอคนมันเยอะเกินไปมันเหนื่อยนี่นา
ฉันเกลียดที่จะต้องทนฟังคำโกหก
แน่นอนว่ารวมถึงพวกคำพูดเสแสร้งด้วยล่ะ
นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉัน ‘ไม่ค่อยชอบ’ วัฒนธรรมญี่ปุ่นในหลายๆเวลา
ทุกคนไม่ยอมพูดอะไรกันตรงๆ กว่าจะเข้าประเด็นได้ก็ต้องอ้อมไปอ้อมมา
ซึ่งหลายๆครั้งมันก็อดคิดไม่ได้ว่ามันดูเสแสร้งเหมือนกันนะ (พูดก็พูดเถอะ แต่บางทีฉันเองก็คงเผลอเป็นแบบนี้เหมือนกัน)
ฉัน
บางทีก็ ‘ไม่ค่อยชอบ’ เมืองฮาบาทากินี้สักเท่าไหร่
ไม่ใช่ว่าฉันเกลียดเมืองนี้ แต่มันแค่.. อะไรหลายๆอย่างในเมืองมันทำให้ฉันรู้สึกรำคาญในบางที
เป็นเมืองที่อยู่ห่างไกลเมืองหลวง เหมือนจะเจริญแต่ก็เจริญไม่สุด
พูดชื่อฮาบาทากิหรือแม้กระทั่งนีงาตะ คนนอกก็แทบจะไม่รู้จัก
มันก็… ทำให้ฉันเบื่อ .. บางช่วงน่ะนะ
เพราะงี้ฉันถึงได้ไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกา เพื่อหนีไปจากเมืองนี้ชั่วคราว และมีความฝันอยากที่จะไปเรียนที่โตเกียวไง
และฉัน…
บางทีก็มีความคิดแย่ๆ
แบบพวก.. ไม่ค่อยชอบอยู่กับคุณพ่อคุณแม่
ไม่ใช่ว่าฉันเกลียดพวกท่าน
คุณพ่อของฉันเป็นชาวประมง ส่วนคุณแม่ขายอาหารทะเล ทั้งสองเป็นคนดีมากๆ
แต่พอดูพวกหนัง หรือตอนไปอเมริกาแล้วได้อยู่กับโฮสต์แฟมิลี่ที่นู่น หรือเจอพ่อแม่ของเพื่อนๆหลายๆคน
ฉันก็นึกอิจฉาอดคิดไม่ได้ว่าอยากจะให้คุณพ่อคุณแม่ของฉันเก่งๆเท่ๆแบบนั้นบ้าง
ก็แค่นั้นเอง
เหนือสิ่งอื่นใด นึกๆดูแล้ว จากที่พูดมาหลายๆอย่าง
สิ่งที่ฉันไม่ชอบที่สุดก็คือตัวเอง
ฉันเกลียดตัวเองที่มีความคิดแย่ๆมากมายในหัวเต็มไปหมด ความคิดแบบที่ทุกคนคงไม่คิดกัน
แล้วเอาแต่คิดแย่ๆ บ่นมากมายแต่ก็ไม่เคยทำอะไรได้สักอย่าง
ถึงแม้ว่าฉันจะแสดงออกดูมั่นใจขนาดไหน
แต่ลึกๆแล้วฉันไม่มั่นใจในตัวเองเลย
ฉันเกลียดที่ตัวเองไม่มีอะไรที่เก่งสุดๆสักอย่าง
มองเพื่อนๆรอบๆ คนนั้นก็เก่งวิชาการ คนนั้นก็เก่งกีฬา คนไหนก็เก่งดนตรี
แล้วฉันล่ะ? ไม่มีอะไรแบบเขาเลยนี่
ฉันเป็นคนขี้รำคาญ
และมีหลายเรื่องที่ฉันรำคาญ
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ฉันเกลียดตัวเองมากที่สุด
ฉันเกลียดที่ตัวเองไม่มีความกล้า
อยากจะก้าวออกไปไหน อยากจะคว้าอะไร แต่ก็ไม่มีความมั่นใจพอที่จะก้าวออกไป
นั่นก็เพราะฉันกลัวว่าถ้าหกล้มขึ้นมาแล้วฉันจะต้องเสียใจ ….
ก็แค่นั้นเอง..
———————————————————————————————————————
จบบบบบบ ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ5555
ไอเดียเราเอามาจากหนัง 10 Things I hate about you ค่ะ555 อยากบ่นเกลียดๆๆๆเป็นกลอนแบบนางเอกในเรื่ือง(…) ก็ไม่รู้สังเกตเห็นกันรึเปล่า แต่ท่ามกลางคำบ่น(?)ยาวๆข้างบน เราพยายามให้มันมีสัมผัสคล้องจองบ้างค่ะ!
เนกาทีฟเนอะ เราเขียนไปก็รู้สึกว่าจมกับความเนกาทีฟไปนิดนึงเหมือนกัน555 ซากุระเป็นคาร์ที่ความคิดในหัวค่อนข้างเนกาทีฟค่ะ เจ้าตัวมีความคิดแย่ๆเต็มไปหมด แต่ก็รู้ตัวแหละว่าความคิดพวกนี้มันไม่ดี
หลายๆอย่างในตัวก็ขัดกันด้วย แบบ ไม่ชอบคนโกหกอะเนอะ ไม่ชอบคนที่มีอะไรไม่พูดตรงๆ แต่บางทีนางก็เผลอทำ555555
แล้วก็อย่างที่บอกว่านางไม่มีความกล้า เหมือนจะยอมรับแต่จริงๆก็ยังไม่กล้ายอมรับความคิดแย่ๆตัวเอง ไม่กล้าที่จะทำอะไรหลายๆอย่างที่อยากจะทำ ไม่กล้าที่จะลองทำดู เป็นเด็กที่บางทีเราก็อยากตีค่ะ ฮือ5555 แต่บางทีก็อยากกอดโอ๋นะ อยากให้พัฒนา อยากให้ก้าวข้ามความคิดเหล่านี้ไปได้ อยากให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง
เอนทรี่นี้เราคิดจะเขียนตั้งแต่ปลายปีที่แล้วแล้วค่ะ แต่ไม่มีเวลา/ฟีลลิ่งไม่มาสักที จนได้มาเขียนตอนปิดเทอมนี้555 จริงๆมีพาร์ทต่อนะ เรื่องความคิดต่อจากนี้นี่แหละ อยากจะเข็นออกมาให้ได้ก่อนทำงาน /ปาดน้ำตา ไม่งั้นมันค้างเติ่งอะ ฮือ55555555
ก็ ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่อ่านอีกทีนะคะ! เราอาจจะเขียนงงๆแต่ก็ยังอุตส่าห์อ่านกัน55555 ขอบคุณจริงๆค่ะ!!